วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

ขนมกาละแม


ขนมกาละแม

ส่วนผสม

แป้งถั่วเขียว 1 ช้อนโต๊ะ

แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย

หัวกะทิ 1 1/4 ถ้วย

น้ำตาลทราย 1 ถ้วย

กาบมะพร้าวเผา 1/2 ผล


วิธีทำ

1 นำกาบมะพร้าวเผามาตำให้แหลกแล้วใส่น้ำ 1 ถ้วยผสมคนให้น้ำเป็นสีดำแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อให้น้ำดำจากกาบมะพร้าว

2 นำแป้งถั่วเขียวผสมกับแป้งข้าวเหนียวด้วยกันในกะทะทองแล้วเติมน้ำสีดำที่ได้จากกาบมะพร้าวลงไปนวดแป้งให้เนียนเข้ากันแล้วเติมน้ำตาลทรายและหัวกะทิลงไปคนให้เข้ากัน

3 นำส่วนผสมทั้งหมดมาตั้งด้วยไฟอ่อน กวนแป้งให้เหนียวกวนจนล่อนออกจากกะทะแล้วจึงตักออกจากกะทะ

4 เทขนมที่กวนเสร็จแล้วลงถาด (ถาดที่ใช้ควรเป็นถาดที่ทาน้ำพึชไว้แล้ว) เกลี่ยให้เสมอกัน พักให้เย็นลงแล้วจึงตัดเป็นชิ้นๆตามต้องการ

ขนมข้าวต้มหัวหงอก

ขนมข้าวต้มหัวหงอก

ส่วนผสม


- ได้แก่ ข้าวเหนียว ๑ ลิตร กล้วยน้ำว้า ๑๐ ผล มะพร้าวขูดขาว ๑/๒ กิโลกรัม น้ำตาลทราย ๑/๒ กิโลกรัม เกลือป่น ๑ ช้อนโต๊ะ และใบตองสำหรับห่อ ตองสำหรับมัด


วิธีทำ
นำข้าวเหนียวมาซาวน้ำ ๒ ครั้ง ฉีกใบตองกว้างพอประมาณ เช็ดให้สะอาดเตรียมไว้ กล้วยน้ำว้าปอกเปือก ผ่าซีก ตักข้าวเหนียวที่เตรียมไว้ใส่ใบตองเล็กน้อย แล้ววางกล้วยน้ำว้าที่ผ่าไว้ ๑ ซีก ตักข้าวเหนียวใส่ลงบนกล้วย เกลี่ยข้าวหุ้มกล้วยให้มิด พับใบตองเป็นรูปให้มัดได้ จากนั้นนำข้าวต้ม ๔-๕ ห่อ มารวมกัน แล้วมัดด้วยตอกหัวท้าย ใส่มัดข้าวต้มลงในหม้อ ตั้งไฟร้อน ต้มไปจนข้าวต้มสุกยกลงในการต้มข้าวนี้ บางคนจะเอาใบตองมาห่อและมัดเลียนแบบมัดข้าวต้มจริง ๆ เรียกว่า ชู้เข้าหนม (อ่าน จู้เข้าหนม) ใส่บนมัดข้าวต้มในไห เชื่อว่าจะทำให้ขนมหรือข้าวต้มสุกทั่ว
การรับประทานข้าวต้มหัวหงอก จะแกะข้าวต้มตัดเป็นท่อน ๆ ตามขวาง โรยด้วยมะพร้าวขูด ผสมน้ำตาลและเกลือป่นมากน้อยตามชอบ

ขนมวง

ขนมวง






ส่วนผสม

แป้งข้าวเหนียวประมาณ ๑ กิโลกรัม กล้วยน้ำว้าสุกงอมครึ่งหวี (หรือบางแห่งใช้ฟักทองนึ่งสุกบดละเอียด) น้ำอ้อย ๕ ก้อน (หรือบางแห่งใช้น้ำตาลปี๊บ) หัวกะทิและน้ำมันพืช

วิธีทำ

๑.คลุกแป้งกับกล้วยบด (หรือฟักทองสุก) บดละเอียดให้เข้ากัน ระหว่างนี้เติมน้ำอุ่นลงไปด้วย กะให้เหนียวพอประมาณ แล้วจึงค่อยๆ ใส่หัวกะทิลงไปนวด หมักทิ้งไว้ประมาณ ๒๐ นาที
๒. ปั้นแป้งให้เป็นรูปวงแหวนขนาดเล็ก-ใหญ่ตามต้องการ
๓. ใส่น้ำมันในกะทะจนร้อนได้ที่แล้วจึงนำขนมวงที่ปั้นไว้ลงไปทอดจนเหลืองทั้งสองด้าน และตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
๔. ละลายน้ำตาลปี๊บกับน้ำเล็กน้อยแล้วนำไปตั้งไฟ เคี่ยวจนน้ำตาลเหนียวแล้วจึงนำขนมวงที่พักไว้มาลงจุ่มเพียงด้านเดียว เมื่อน้ำตาลแห้งก็รับประทานได้
๕. ถ้าใช้น้ำอ้อยให้เคี่ยวน้ำอ้อยจนข้นแล้วนำไปเหยาะรอบๆ ขนมวงเพียงด้านใดด้านหนึ่ง รอจนน้ำอ้อยจับตัวแข็งและกรอบได้ที่ก็รับประทานได้

ขนมไทยภาคเหนือ

                                                                                         

ขนมเทียน



ส่วนผสม

-แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
-น้ำตาลโตนด 2 ถ้วยตวง (สำหรับทำตัวแป้ง)
-น้ำตาลโตนด 1 1/2 ถ้วยตวง (สำหรับทำไส้)
-ถั่วเขียวกะเทาะเปลือกนึ่ง 2 ถ้วยตวง
-น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
-พริกไทย 1 ช้อนชา
-น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ
-มะพร้าวขูด 2 ถ้วยตวง
-เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

1. เริ่มจากทำตัวแป้งก่อนโดย นำน้ำตาลโตนดไปเคี่ยวจนเหนียวแล้วจึงนำไปนวดกับแป้งข้าวเหนียวจนเข้ากันดี
2. เตรียมทำไส้หวาน โดยนำน้ำตาลโตนดเคี่ยวกับมะพร้าวจนแห้งจึงปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆ สำหรับไส้เค็ม ให้นำน้ำมันใส่กระทะไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง จากนั้นใส่ถั่วนึ่ง, พริกไทย, เกลือและน้ำตาลทราย ผัดจนหอมและส่วนผสมเข้ากันทั่วจึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น
3. ห่อขนมโดยตัดใบตองเป็นแผ่นๆ เช็ดให้สะอาดและทาด้วยน้ำมันนิดหน่อย ตักแป้งใส่แล้วห่อไส้เค็มหรือไส้หวานตามชอบ
จากนั้นนำแป้งอีก ก้อนวางลงบนไส้ ห่อให้เป็นรูปสามเหลี่ยม นำไปนึ่งประมาณ 30 นาทีจนสุกดี

ขนมกระยาสาท


        

   ขนมกระยาสาท


เครื่องปรุง (ส่วนผสม)

กะทิ 5 กิโลกรัม น้ำตาลปีบ 7 กิโลกรัม

แบะแซ 7 กิโลกรัม ถั่วลิสง 15 กิโลกรัม

งา 2 กิโลกรัม ข้าวตอก 0.5 กิโลกรัม

ข้าวเม่า 3 กิโลกรัม

วิธีการทำกระยาสารท

1. นำถั่วลิสงไปคั่วให้สุก กะเทาะเปลือกออกให้หมด และคลึงให้ถั่วแตกออกเป็นซีก

2. นำงาไปคั่วให้สุก มีสีเหลืองอ่อนและหอม

3. นำกะทิ น้ำตาลปีบ แบะแซ ใส่ในกระทะที่ตั้งไฟตามส่วนผสมดังกล่าว แล้วเคี่ยวให้เข้ากัน โดยเคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง

4. นำถั่วลิสงคั่ว งาคั่ว ข้าวเม่า ข้าวตอก ใส่คนไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยใช้ไฟอ่อน ๆ เมื่อส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากันดีแล้ว ให้ยกกระทะลง

5. ตักใส่แบบพิมพ์ ตามแบบที่เราต้องการหรือใส่ถุงพลาสติกเลยก็ได้ แล้วแต่ความต้องการของตลาด แต่ส่วนมากจะตักใส่แบบพิมพ์ และตัดเป็นชิ้น ๆ เล็ก ๆ เพื่อสะดวกในการรับประทาน

ขนมนางเล็ด หรือ ข้าวแตน

http://i262.photobucket.com/albums/ii90/jjbd_photo/food%209/0-30.jpg

นางเล็ด หรือ ข้าวแตน (ข้าวแต๋น)


         



ส่วนผสม

1. ข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
2. น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง
3. น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
4. น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง



วิธีทำ

1. ซาวข้าวเหนียวให้สะอาดแล้วแช่น้ำพักไว้ 1 คืน
2. นึ่งข้าวเหนียวให้สุก แล้วตักข้าวเหนียวลงในพิมพ์กดเบาๆ ให้ข้าวเหนียวเป็นแผ่นบางๆใส่ถาดตากแดดให้แห้งสนิท
3. น้ำมันใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อนใส่ข้าวที่ตากแดดแล้วลงทอดให้พองกรอบ แล้วตักขึ้นให้สะเด็ด
4. น้ำมันซับน้ำมันให้แห้งแล้วพักไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชนะไม่ให้ถูกลม
5. เคี่ยวน้ำตาลปึกกับน้ำจนน้ำตาลละลายเคี่ยวให้ข้นจนเป็นยางมะตูม ยกลงจากเตา
6. ตักน้ำที่เคี่ยวไว้หยอดบนแผ่นข้าวที่ทอดไว้เป็นวงให้สวยงาม ผึ่งให้เย็นเก็บใส่ภาชนะปิดฝาไม่ให้ถูกลม


ขนมข้าวจี่

                                             ขนมข้าวจี่



วิธีทำ


1. นึ่งข้าวเหนียว
2.ปั้นข้าวเหนียว
3ปรุงไข่ที่เราเตรียมไว้
4 นำข้าวที่เราเตรียมไว้มาชุบกับไข่
5. นำข้าวไปจี่ให้ไข่สุก

ข้าวต้มมัด

 

ข้าวต้มมัด




ส่วนผสม

- ข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม แช่ในน้ำอย่างน้อย 3 ชม. ล้างน้ำให้สะอาด
- หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง
- เกลือ 3 ช้อนโต๊ะ
- กล้วยน้ำว้า 15 ลูก ผ่าตามยาวครึ่งลูก
- ถั่วดำหรือถั่วขาว 3 ขีด นำถั่วไปต้มพอสุกแล้วตักวางใส่กระชอนวางให้สะเด็ดน้ำ

วิธีทำ
- นำข้าวเหนียวที่ล้างน้ำสะอาดแล้วใส่กระทะ พักไว้
- ผสมหัวกะทิ กับเกลือ ให้เ้ข้ากัน แล้วชิมดู ถ้าไม่เค็มให้เติมให้มีรสเค็ม
- นำกะทิที่ได้รสเค็มเทใส่ข้าวเหนียว แล้วใส่ถั่วขาวหรือถั่วดำที่ต้มแล้วลงไป แล้วนำไปตั้งไฟแล้วผัด
- ผัดจนกว่ากะทิแห้ง แล้วยกลงจากเตา
- วางใบตอบ 2 ขนาดซ้อนกัน หยิบข้าวเหนียวที่ผัดได้ที่แล้ววางบนใบตอง
- เอากล้วยที่ผ่าซีกวางลงไป แล้วหยิบข้าวเหนียวมาวางปิดกล้วยให้มิด บางๆ
- ห่อข้าวต้มให้สวยงาม แล้ววางไว้ก่อน หรือห่อไปเรื่อยๆ จนหมด
- นำข้าวต้มที่ห่อเรียบร้อยแล้วมาจับคู่ หันหน้าเข้าหากันแล้วมัดรวมกัน หัวท้าย (ดูในรูปเอานะคะ)
- นำข้าวต้มที่มัดเป็นคู่แล้วไปนึ่ง 45 นาที หรือ จนข้าวเหนียวสุก แค่นี้ก็เสร็จขั้นตอนนำมาทานได้แล้วค่ะ อ๊ะ แต่ต้องรอให้เย็นก่อนนะคะ ไม่งั้นปากจะพองได้

ขนมไทยภาคอีสาน

 

 ขนมข้าวโป่ง


ส่วนประกอบ

 1.น้ำตาล
2.ข้าวเหนียวหรือข้าวเหนียวดำแช่น้ำประมาณ4-5ชั่วโมง
3.ไข่ไก่
4.ไข่ต้มเอาเฉพาะไข่แดง
5. น้ำมันพืช

วิธีทำ


1.นำข้าวเหนียวที่แช่น้ำมานึ่งให้สุก แล้วนำมาเทลงในกระด้งแล้วคนไปมาให้ไอน้ำออก
2.นำข้าวเหนียวที่ที่นึ่งสุกใหม่ไปโขลกให้ละเอียดด้วยครกมอง
3.พอข้าวเหนียวละเอียดพอประมาณใส่ไข่โขลกให้เข้ากันกับข้าวเหนียว
4.เติมน้ำตาลโขลกให้เข้ากับข้าวเหนียว
5.นำข้าวเหนียวที่ผสมกับน้ำตาลกับไข่เสร็จแล้วนำไปปั้นเป็นก้อนกลมๆพอประมาณ นำไข่แดงที่ต้มสุกแล้วผสมให้เข้ากันแล้วทามือและทาแผ่นพลาสติกเพื่อไม่ให้แป้งติดกับแผ่นพลาสติก แล้วใช้ถุงพลาสติกที่ตัดไว้วางบนแผ่นกระเบื้องที่ทำความสะอาดเสร็จแล้ว นำข้าวเหนียวที่ปั้นไว้วางบนแผ่นพลาสติก
6.นำแผ่นถุงพลาสติกวางทับแล้วนำกระเบื้องวางทับอีกที แล้วกดให้แป้งกระจายออกเป็นแผ่น วงกลม
7.นำแป้งที่กดเป็นวงกลมวางบนเสื่อที่ทำความสะอาดแล้ว
8.ทำแบบนี้เรื่อยๆจนแป้งหมด
9.แล้วนำข้าวโป่งที่ทำเสร็จมาผึ่งแดดไว้ประมาณ3-4วันแล้วเก็บใส่กล่องปิดฝาให้สนิด
10.นำไปย่างไฟให้พองขึ้นพอเหลืองก็สามารถรับประทานได้

ขนมบ่าบิ่น

                                             ขนมบ่าบิ่น

                                                                                 

ส่วนผสมขนมบ้าบิ่น


   แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วยตวง
- มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทรายขาว 1 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำมันพืชสำหรับทาถาด
- แป้งท้าวยายม่อม 1/2 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กลิ่นนมแมว 1 ช้อนชา



วิธีทำขนมบ้าบิ่น


 
ขูดมะพร้าวทึนทึกให้เป็นฝอย
- ผสมแป้งข้าวเหนียวขาว แป้งท้าวยายม่อมและมะพร้าวเข้าด้วยกัน แล้วนวดสักพักใหญ่ๆ เพื่อให้น้ำในมะพร้าวออก
ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย นวดต่อไปอีกสักครู่ ใส่กลิ่นนมแมวคนให้เข้ากัน
- นำไปตั้งไฟกวน ใช้ไฟอ่อนๆให้แป้งสุก ลักษณะข้นไม่สุกมาก
- เตรียมถาดอบ ดดยทาน้ำมันพืชให้ทั่วทั้งก้นถาด และข้างๆถาด แต่อย่าให้ชุ่มโชกเกินไป เทขนมใส่พิมพ์ (ถาด) จนเต็ม นำไปอบให้เหลือง
- นำออกจากเตาอบ พักไว้ให้เย็น จึงตัดเป็นชิ้นๆ

ขนมลา

 

                                              ขนมลา


ส่วนประกอบ

ข้าวเจ้า
น้ำตาลทราย
น้ำผึ้ง
น้ำมันมะพร้าวใหม่ๆ (หรือน้ำมันอื่นๆ)
ไข่ต้ม (ใช้เฉพาะไข่แดง)

 วิธีทำ

  • ล้างข้าวเจ้าให้สะอาดแล้วหมักลงกระสอบจูดทิ้งไว้ 2 คืน ครบกำหนดนำออกล้างให้หมดกลิ่น โม่เป็นแป้งแล้วบรรจุลงถุงผ้าบางๆ แขวนหรือวางไว้ให้สะเด็ดน้ำ พอหมาดนำไปวางราบลง หาของหนักๆ วางทับเพื่อให้แห้งสนิท นำแป้งที่แห้งแล้วนั้นไปตำให้ร่วน ใส่น้ำผึ้งคลุกเคล้าจนเข้ากันดี เอามือจุ่มโรย(ทอด)ดู เมื่อเห็นว่าเป็นเส้นดีและโรยได้ไม่ขาดสายก็ใช้ได้ ลองชิมดูรสจนเป็นที่พอใจ
  • โรยทอดด้วยกระทะขนาดใหญ่ ไฟอ่อนๆ เอาน้ำมันผสมไข่แดงทาให้ทั่วกระทะ พอกระทะร้อนได้ที่ ตักแป้งใส่กะลามะพร้าวหรือขันหรือกระป๋องที่ทำขึ้นอย่างประณีตสำหรับโรยแป้งโดยเฉพาะคือเจาะก้นเป็นรูเล็กๆ จนพรุน
  • วิธีการโรยก็วนไปวนมาให้ทั่วกระทะ หลายๆ ครั้ง จนได้แผ่นขนาดใหญ่ตามต้องการ สุกแล้วใช้ไม้ปลายแหลมพับตลบนำมาวางซ้อนๆ กันให้สะเด็ดน้ำมัน โรยแผ่นใหม่ต่อไป อย่าลืมทาน้ำมันผสมไข่แดงทุกครั้งไป
  • ขนมลาให้โปรตีนจากแป้ง น้ำตาล และไข่แดง และมีส่วนประกอบของไขมันอยู่ด้วย เป็นขนมที่แสดงถึงฝีมือประณีตบรรจงอย่างยิ่ง จากแป้งข้าวเจ้า ผสม น้ำผึ้ง แล้วค่อยๆ ละเลงลงบนกระทะน้ำมันที่ร้อนระอุ กลายเป็นแผ่นขนมลาที่มีเส้นเล็กบางราวใยไหม สอดสานกันเป็นร่างแห

ขนมกอแหละ

                            

                                       ขนมกอแหละ

 

เครื่องปรุง / ส่วนผสม

๑. แป้งข้าวเจ้า ๒. แป้งมัน ๓. มะพร้าวขูด (คั้นเอาน้ำกะทิ)
๔. น้ำตาลทราย (เม็ดละเอียด)
๕ .มะพร้าวคั่ว
๖. กุ้งแห้งบดละเอียด
๗. เกลือ
๘. ต้นหอมหั่นละเอียด
๙.ถั่วเขียวซีกปอกเหลือก

ขั้นตอน/วิธีทำ


๑. นำข้าวสารเจ้ามาล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำให้เมล็ดพองได้ที่ นำไปโม่ให้ละเอียด (ปัจจุบันนิยมใช้แป้งสำเร็จรูป ที่โม่เสร็จแล้วมีลักษณะเป็นผง สะดวกและประหยัดเวลา ) ๒. นำมะพร้าวขูดคั้นเอาหัวกะทิใส่เกลือให้พอมีรสเค็ม ๓. นำแป้งข้าวเจ้าละลายน้ำกะทิ อัตราส่วนแป้งข้าวเจ้า ๑ ลิตร ต่อมะพร้าว ๒ ผล๔. เมื่อแป้งข้าวเจ้าเข้ากับน้ำกะทิดีแล้วเทใส่หม้อปากกว้างหรือกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟจนกระทั่วสุก๕. เทใส่ถาด นำถั่วเขียวซีก (กะเทาะเปลือก) โรยหน้าให้ทั่ว ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น แล้วจึง หั่นต้นหอมเป็นชิ้นเล็ก ๆ โรยหน้าให้ทั่ว แล้วตัดเป็นชิ้น ๆ รับประทานกับเครื่องปรุงรสโรยหน้า๖. ทำเครื่องปรุงรสโรยหน้า โดยนำมะพร้าวขูดมาคั่วให้มีกลิ่นหอม ผสมกับกุ้งแห้งป่นละเอียด น้ำตาลทรายในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วโรยหน้าขนมรับประทาน

ขนมก้านบัว


                                                                                                ขนมก้านบัว

 


ส่วนผสมตัวแป้ง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 กิโลกรัม
น้ำมันพืช 2 ช้อนโตะ
น้ำ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แอมโมเนีย 2 ช้อนชา
โซดา 2 ชอนชา
ส่วนผสมน้ำตาลสำห
น้ำตาลทราย 1 1/4 ถ้วย
น้ำ 1/2 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา
แบะแซ 20 กรัม
ขิงแก่สับละเอียด 75 กรัม ( 1/3 ถ้วย)
วิธีทำ
1.ร่อนแป้งลงในอ่างผสม ทำเป็นบ่อตรงกลาง
2.ผสมน้ำ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย เกลือ ไข่ไก่ แอมโมเนีย โซดา คนให้เข้ากัน
3.เทส่วนผสมข้อ 2 ลงในอ่างแป้ง นวดให้เข้ากัน พักแป้งไว้ 1 ชั่วโมง
4.แบ่งแป้งมาคลึงให้มีความหนาประมาณ 1/4 เชนติเมตร ตัดแป้งเป็นชิ้นยาว3-4 เนติเมตร ทำเช่นนี้จนหมดแป้ง
5.นำแป้งที่ตัดแล้วไปทอดในน้ำมัน จนแป้งมีสีเหลืองกรอบ ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน
วิธีทำน้ำตาลเคลือบ
ผสมน้ำ น้ำตาลทราย เกลือ แบะแซ ขิงแก่ ลงในกระทะ นำไปตั้งไฟเคี่ยว จนเหนียวข้น ใส่แป้งที่ทอดแล้วลงคลุกให้เข้ากัน จนน้ำตาลแห้ง จับทั่วตัวแป้ง(ตอนน้ำตาลใกล้จะแห้ง ให้หรี่ไฟลงอ่อนๆ )

ขนมไทยภาคใต้


                                                ขนมหน้าไข่


ส่วนผสม

ไข่ไก่, น้ำตาลทราย, แป้งสาลี, นมสด, น้ำสะอาด, น้ำมันพืชหรือเนยขาว, ลูกเกด ซึ่งหากยึดที่การใช้แป้งสาลี 1 กิโลกรัม จะต้องใช้น้ำตาลทราย 1.2 กิโล กรัม, ไข่ไก่ 20 ฟอง, นมสด 1 กระป๋อง, น้ำสะอาด, น้ำมันพืชหรือเนยขาว และลูกเกด ซึ่ง 3 อย่างหลังก็ใช้พอเหมาะพอสม

ขั้นตอนการทำ “ขนมไข่”

เริ่มจากนำแป้งสาลีมาร่อน 3 ครั้ง แล้วพักไว้ เพื่อให้แป้งเบาตัว จากนั้นหันไปนำไข่ไก่มาตอกใส่อ่างผสม ตีไข่ ให้ขึ้นฟู แล้วเติมน้ำตาลทรายทีละน้อยจนหมด ตีต่อไปจนส่วนผสมมี ลักษณะที่เรียกว่าตั้งยอดอ่อน ๆ ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาทำนานประมาณ 1 ชั่วโมง
แต่ตรงนี้มี เคล็ดลับคือการตีไข่กับส่วนผสมนั้น ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ เครื่องตีเค้ก เพราะจะเร็วขึ้น ตีแล้วส่วนผสมจะขึ้นดี และทำให้ ขนมไข่นุ่มกว่าการตีด้วยมืออีกด้วย
ลำดับต่อไป นำแป้งสาลีที่เตรียมไว้มาค่อย ๆ ตะล่อมใส่ผสมลงไปในอ่างผสมที่มีส่วนผสมของไข่กับน้ำตาลอยู่ ใส่แป้งสลับกับนมสดจนหมด แล้วเคล้าเบา ๆ ให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ตั้งพักไว้
ล้างพิมพ์ขนมไข่ (มีหลายแบบ) ให้สะอาด เช็ดด้วยน้ำมันพืชให้ทั่ว นำไปผิงไฟ โดยใช้เตาถ่านซึ่งคุแดง เกลี่ยพอประมาณ และวางถ่านด้านบนของฝาพิมพ์ด้วย โดยเมื่อเตาร้อนดีแล้ว ใช้ลูกประคบเล็ก ๆ ชุบน้ำมันหรือเนยขาวเช็ดให้ทั่วบริเวณหลุมหรือเบ้าสำหรับหยอดแป้งขนมใน พิมพ์ ก่อนจะหยอดแป้ง หยิบลูกเกด 2-3 เม็ดใส่ลงไปก่อน แล้วจึงใช้ช้อนตักแป้งหยอดเต็มเบ้าพิมพ์

ขนมฝอยทอง

                    

                                        ขนมฝอยทอง





ส่วนผสม

ไข่แดงเป็ด,ไข่แดงไก่, น้ำตาลทราย, ใบเตย, กลิ่นดอกมะลิ,เทียนอบขนม

วิธีทำ


1. น้ำตาลทราย น้ำ ตั้งไฟพอเดือดน้ำตาลละลาย
2. ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง ตั้งไฟเคี่ยวต่อ
3. ให้น้ำเชื่อมมีลักษณะไม่ข้นหรือใสเกินไป เหมาะสำหรับโรยฝอยทอง
4. ตอกไข่ แยกไข่ขาวออกใช้แต่ไข่แดง และเก็บน้ำไข่ขาวที่ใสไม่เป็นลิ่ม เรียกน้ำค้างไข่
5. นำไข่แดงใส่ผ้าขาวบางรีดเยื่อไข่ออก ผสมไข่แดงกับน้ำค้างไข่ตามส่วน คนให้เข้ากัน
6. เตรียมกระทะทองใส่น้ำเชื่อมเดือด ๆ ไว้ ทำกรวยด้วยใบตอง หรือใช้กรวยโลหะใส่
7.ไข่แดงโรยในน้ำเชื่อมเดือด ๆ ไปรอบ ๆ ประมาณ 20-30 รอบ เส้นไข่สุกใช้ไม้แหลม
8. สอยขึ้นจากน้ำเชื่อม พับเป็นแพ อบด้วยควันเทียนหลังจากเย็นแล้ว

ขนมจ่ามงกุฏ

ขนมจ่ามงกุฏ

ส่วนผสม


เม็ดแตงโมแกะแล้ว 1/2 ถ้วย
นํ้าตาลทราย 1/2 ถ้วย
นํ้าดอกมะลิ 1 ถ้วย
ทองคำ เปลวแท้ 2 แผ่น
แป้งสาลี 1 ถ้วย
ไข่แดงของไข่ไก่ 3 ฟอง


วิธีทำ

1. เชื่อมนํ้าตาล โดยใช้นํ้าตาลกับนํ้าดอกมะลิตั้งไฟให้เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วตั้งไฟต่ออีก 5 นาที
2. ล้างขัดกะทะทองเหลืองให้สะอาดเป็นเงา ตะแคงข้างหนึ่ง คั่วเม็ดแตงโม โดยใช้มือจุ่มลงในนํ้าเชื่อม แล้วกวาดไปมา จนน้ำ ตาลแห้งแล้ว ใช้มื่อจุม่ น้ำ เชื่อม ทำ เช่นนี้ต่อไปจน น้ำ ตาลเกาะเป็นหนามติดเม็ดแตงโมพองาม เก็บใส่ภาชนะ อย่าให้อากาศเข้า
3. ระหว่างที่กวาดเม็ดแตงโมอยู่นั้น ต้องตะแคงกะทะและใช้ ผ้าขาวบาง เช็ดกะทะให้สะอาดอยู่เสมอ
4. นวดแป้งกับไข่แดงจนนิ่มมือ ถ้ายังแห้งอยู่จึงเติมนํ้า แล้ว คลึงแป้งเป็นแผ่นบาง ๆ กดให้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร นำ แผ่นแป้งที่ตัดแล้ว ใส่ในถ้วยตะไลใช้มือ กดเบา ๆ ให้เป็นรูปก้นถ้วยตะไล ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วจึงเอาไป อบพอสุกกลายเป็นแป้งรองขนม
5. การทำ มงกุฏ ให้เอานํ้าตาลทรายใส่หม้อเล็ก ๆ ใส่นํ้านิด หน่อย ตั้งไฟอ่อน ๆ พอนํ้าตาลละลายเอาเม็ดแตงโมที่ กวาดไว้แล้วลงจุ่มให้นํ้าตาลติดกับแป้งที่อบไว้รอบ ๆ
6. ปั้นทองเอกกลม ๆ วางตรงกลาง ใช้มีดปลายแหลมผ่าเป็น 6 พู เหมือนผลมะยม แล้วปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียว วางบนยอดขนมที่ผ่าไว้ใช้ทองคำ เปลวตัดเป็นสี่เหลี่ยมชิ้น เล็ก ๆแตะตรงยอดมองเห็นเหมือนมงกุฏ


ขนมชั้น

                                                                          ขนมลูกชุบ
ส่วนผสมเนื้อลูกชุบ
1. ถั่วเขียวนึ่งสุกบดละเอียด 1 กิโลกรัม
2. น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วยตวง
3. หัวกะทิ (มะพร้าว 400 กรัม) 1 ถ้วยตวง
4. สีผสมอาหารสีต่างๆ

ส่วนผสมตัวชุบ

1. วุ้นผง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำ 2 1 /2 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. นำถั่วเขียวที่กะเทาะเปลือกแล้วล้างน้ำให้สะอาดและแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
2. นำถั่วเขียวที่ผ่านการแช่น้ำแล้ว ไปนึ่งจนสุก
3. นำมะพร้าวที่แก่จัดมาขูดเอาเฉพาะเนื้อมะพร้าวขาวอย่างเดียว
4. คั้นมะพร้าว ด้วยน้ำต้มสุกใส่แต่ทีละน้อย เพื่อให้ได้น้ำกะทิที่ข้นมันตามปริมาณที่ต้องการ
5. นำกะทิที่ได้มาผสมกับถั่วที่นึ่งจนสุกและขดจนได้เนื้อถั่วที่เนียนละเอียด
6. นำถั่วที่มีเนื้อละเอียดดีแล้วมาใส่ลงกระทะทองพร้อมทั้งน้ำตาลทรายขาว
7. กวนด้วยไฟอ่อน ๆ จนเนื้อถั่วข้นเหนียว ล่อนไม่ติดกระทะ
8. ยกถั่วลงปล่อยไว้ให้เย็นแล้วจึงนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
9. แบ่งถั่วเป็นก้อนขนาดเท่ากับลูกชุบที่ต้องการปั้น
10. นำไปอบควันเทียนมีกลิ่นหอมจรุงทุกเม็ด ก่อนจะนำมาปั้นแต่งจนกลายเป็นผลไม้ชนิดต่าง ๆ
11. นำลูกชุบที่ปั้นเสร็จแล้วมาชุบวุ้น 2-3 ครั้ง โดยการชุบแต่ละครั้งต้องรอให้วุ้นแห้งก่อนแล้วจึงชุบทับ

วิธีการอบควันเทียน

1. นำถั่วที่กวนได้ที่พักไว้ให้เย็น ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด ไม่ควรใช้ภาชนะพลาสติกจะทำให้กลิ่นเหม็นของ พลาสติกปนในถั่วกวน
2. วางถ้วยกระเบื้องเล็กไว้ตรงกลางถั่วกวน
3. จุดเทียนอบทั้ง 2 ข้าง ให้เปลวไฟติดดีแล้วดับให้เกิดควัน
4. วางเทียนบนถ้วยกระเบื้อง ปิดฝาให้สนิทพักไว้ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง
5. กลับถั่วด้านบนลงข้างล่าง แล้วจุดเทียนอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้อาจจะพักไว้ค้างคืนเลยก็ได้

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

ลูกชุบ

                                                                       
 

                                                ขนมลูกชุบ

 
 
 
 

ส่วนผสมเนื้อลูกชุบ

1. ถั่วเขียวนึ่งสุกบดละเอียด 1 กิโลกรัม
2. น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วยตวง
3. หัวกะทิ (มะพร้าว 400 กรัม) 1 ถ้วยตวง
4. สีผสมอาหารสีต่างๆ

ส่วนผสมตัวชุบ


1. วุ้นผง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำ 2 1 /2 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง

 

วิธีทำ


1. นำถั่วเขียวที่กะเทาะเปลือกแล้วล้างน้ำให้สะอาดและแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
2. นำถั่วเขียวที่ผ่านการแช่น้ำแล้ว ไปนึ่งจนสุก
3. นำมะพร้าวที่แก่จัดมาขูดเอาเฉพาะเนื้อมะพร้าวขาวอย่างเดียว
4. คั้นมะพร้าว ด้วยน้ำต้มสุกใส่แต่ทีละน้อย เพื่อให้ได้น้ำกะทิที่ข้นมันตามปริมาณที่ต้องการ
5. นำกะทิที่ได้มาผสมกับถั่วที่นึ่งจนสุกและขดจนได้เนื้อถั่วที่เนียนละเอียด
6. นำถั่วที่มีเนื้อละเอียดดีแล้วมาใส่ลงกระทะทองพร้อมทั้งน้ำตาลทรายขาว
7. กวนด้วยไฟอ่อน ๆ จนเนื้อถั่วข้นเหนียว ล่อนไม่ติดกระทะ
8. ยกถั่วลงปล่อยไว้ให้เย็นแล้วจึงนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
9. แบ่งถั่วเป็นก้อนขนาดเท่ากับลูกชุบที่ต้องการปั้น
10. นำไปอบควันเทียนมีกลิ่นหอมจรุงทุกเม็ด ก่อนจะนำมาปั้นแต่งจนกลายเป็นผลไม้ชนิดต่าง ๆ
11. นำลูกชุบที่ปั้นเสร็จแล้วมาชุบวุ้น 2-3 ครั้ง โดยการชุบแต่ละครั้งต้องรอให้วุ้นแห้งก่อนแล้วจึงชุบทับ

วิธีการอบควันเทียน


1. นำถั่วที่กวนได้ที่พักไว้ให้เย็น ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด ไม่ควรใช้ภาชนะพลาสติกจะทำให้กลิ่นเหม็นของ พลาสติกปนในถั่วกวน
2. วางถ้วยกระเบื้องเล็กไว้ตรงกลางถั่วกวน
3. จุดเทียนอบทั้ง 2 ข้าง ให้เปลวไฟติดดีแล้วดับให้เกิดควัน
4. วางเทียนบนถ้วยกระเบื้อง ปิดฝาให้สนิทพักไว้ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง
5. กลับถั่วด้านบนลงข้างล่าง แล้วจุดเทียนอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้อาจจะพักไว้ค้างคืนเลยก็ได้

ขนมไทยภาคกลาง

                                                                   

                                       ขนมทองหยิบ



ความหมายทองหยิบ

   เป็น ขนมมงคล ชนิดหนึ่ง มี ลักษณะ งดงามคล้าย ดอกไม้สีทอง ต้องใช้ความสามารถและ ความพิถีพิถัน เป็นอย่างมาก ใน การ ประดิษฐ์ประดอย จับกลีบให้มีความงดงามเหมือนกลีบดอกไม้ ชื่อ ขนมทองหยิบ เป็นชื่อ สิริมงคล เชื่อว่าหากนำไปใช้ประกอบ พิธีมงคล ต่างๆ หรือให้เป็น ของขวัญ แก่ใครแล้ว จะทำให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย หยิบจับ การงาน สิ่งใดก็จะ ร่ำรวย มีเงินมีทอง สมดังชื่อ "ทองหยิบ"

ส่วนผสมของขนมทองหยิบ

ไข่เป็ด                      ๑๐      ฟอง
น้ำตาลทราย                  ๑       กิโลกรัม
น้ำลอยดอกมะลิ                ๕       ถ้วยตวง

วิธีทำ

  ๑. ผสมน้ำ น้ำตาลทราย ตั้งไปให้เดือด พอเหนียว ตักน้ำเชื่อมขึ้นใส่ถาดไว้พอประมาณ ส่วนที่เปลือตั้งไฟต่อไป  
  ๒. แยกไข่แดง ไข่ขาว 
  ๓. ตีไข่แดงให้ขึ้น ไข่จะเปลี่ยนเป็นสีนวล  
  ๔. ตักไข่ที่ตีได้ที่แล้วหยอดลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งอยู่บนไฟอ่อนให้เป็นวงกลมพอสุกกลับอีกด้านหนึ่งลง
  
๕. ตักแผ่นทองหยิบขึ้นวางในน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ ใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วกลาง นิ้วชี้ ของมือซ้าย หยิบไข่ ตามด้วย นิ้วหัวแม่มือนิ้วชี้ ของมือขวา หยิบขึ้นใส่ในถ้วยตะไล